วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

คำนึงถึงบ้านขณะฝันในเมือง เขียนโดย โขงรัก คำไพโรจน์

คำนึงถึงบ้านขณะฝันในเมือง เขียนโดย โขงรัก  คำไพโรจน์


ชื่อหนังสือ: คะนึงถึงบ้าน ขณะฝันในเมือง
ผู้ประพันธ์: โขงรัก คำไพโรจน์
จัดพิมพ์โดย: สำนักพิมพ์มิ่งมิตร
ประเภท: กวีนิพนธ์
ขนาดหนังสือ: 145 x 210 x 8 มม. ปกอ่อน
จำนวนหน้า: 152 หน้า
ราคา: 150 บาท

รวมบทกวีผลงานของนักเขียนเข้ารอบ 18 เล่มสุดท้ายรางวัลซีไรท์ ปี 2556 และเป็นหนังสือแนะนำเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ปี 2556 ในการเขียนบทกวีที่พรรณนาสิ่งรอบตัวจากห้วงคะนึงของผู้เขียน สู่ผู้อ่าน

จากคอลัมน์ศิลป์แห่งแผ่นดิน : คำนึงถึงบ้านขณะฝันในเมือง : โดย...ศักดิ์สิริ มีสมสืบ

ผมแอบมอง  “โขงรัก  คำไพโรจน์”  โดยไม่ให้เขารู้ตัว หนุ่มนองคายผู้ผ่านการบ่มเพราะทางวรรณศิลป์จาก ม.มหาสารคาม

ผมได้ร่วมกิจกรรม วรรณกรรมสัญจรครั้งที่  21  ชื่องาน  “มองผันผ่านแสง” ที่ “ภูวัว” จังหวัดบึงกาฬ  เมื่อวันที่  26-28  มกราคม   ได้เดินป่า ปีนเขา พิสูจน์กำลังแข็งขากระทั่งปอด หัวใจ ร่วมกับเยาวชนคนหนุ่มสาวชาวมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ที่สมัครใจมาเข้าค่ายบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์วรรณศิลป์

 โขงรัก คำไพโรจน์ เคยผ่านวันเวลาเช่นนั้น  เขาได้กลับไปร่วมบรรยากาศอันแสนงามกับน้องๆ เขาเกิด 29  มกราคม 2521 เข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย เมื่อปี พ.ศ.2541 ร่วมก่อตั้งกลุ่มกิจกรรมวรรณกรรม นาม “ร้อยแสงจันทร์” หลังจากนั้นเริ่มเขียนบทกวีอย่างจริงจัง เข้มข้น  ตีพิมพ์ตามหน้านิตยสารเป็นระยะๆ

มีผลงานรวมเล่มแล้ว อาทิ “วาดวิถีแห่งชีวิต” (2545) เสียงหายใจสายลมฝน (2548)  นั่งภายในไหวรู้สึก (2551)

 บทกวี “ในวัดปทุมวนาราม” เข้ารอบสุดท้ายนายอินทร์อวอร์ด  ปี  2555

บทกวี  “หม่นเพลงชาติพันธุ์”  ได้รับรางวัลชมเชย  จากสมาคมภาษาและหนังสือแห่งประเทศไทย  และ “คำนึงถึงบ้าน ขณะฝันในเมือง” เล่มล่าสุด  บทกวีเล่มนี้แบ่งเป็น  2  ภาค  ภาคแรก บ้านสะเทือน  ภาคสอง  เมืองเคลื่อนไหว  มีบทเด่นๆ หลายบท ที่มีมุมมอง น่ารัก น่าขัน และแบบน่าขันแบบขืนๆ

 เช่น  “เมื่อหมาจรจัดกัดเป็ดของพ่อ” “หน้าตาพ่อแทบเล็ดเมื่อแทเล็ตมา” “โลงไฟฟ้า น้ำตาแก๊ส มือนี้สีเขียว”

บทกวีที่บันทึกเรื่องราวของผู้คนที่แปลกแยก พลัดหลง สับสน หม่นหมอง เหตุการณ์ทางสังคม การบ้านและการเมือง บ้านภายในและบ้านภายนอก สิ่งแวดล้อมที่แวดล้อมชีวิตและจิตใจ

โขงรัก คำไพโรจน์ ฝากคำถามถึงดอกไม้ขาวในเช้าฉุกเฉิน จากใบไม้ถึงแสงดาวแห่งศรัทธา โดยถวิล “บ้านที่ยังกลับไม่ได้” ในแต่ละวันเขาเก็บตัวอยู่ในห้องหับ แห่งบ้านบึงบัว  มองลอดรั้วผักตำลึง มองเงาน้ำในร่องสวน  วัน ๆ ง่วนอยู่กับการกวาดอนิจจัง ในแต่ละวัน  แต่ละวาด

                          บ้านไพรแทบไร้ญาติวาดเรือกสวน

                          บ้านริมฝั่งฟังคนหาปลาคร่ำครวญ

                          ดิ้นสู่เมืองเรืองกลับล้วนอลวน

                          สุริยะจร  แสงจันทร์  วันคืนส่อง

                          ท่วงทำนองบ้านใหม่ใครสับสน

                          บ้านคนแต่ละวันฉันเห็นคน

                          ทุกข์  ทน  สุข  เศร้าเคล้ากันไป