วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ในความไหวนิ่งงัน เขียนโดย นายทิวา

ในความไหวนิ่งงัน เขียนโดย นายทิวา


  ในความไหวนิ่งงัน เป็นกวีนิพนธ์การเมืองที่สะท้อนวิกฤติการณ์ความขัดแย้งของผู้คนในสังคมไทย โดยชี้ให้เห็นว่า วิกฤติของสังคมไทยปัจจุบันมีมูลเหตุมาจากการที่นักการเมือง (โดยเฉพาะบางคน) มุ่งผลประโยชน์ตนมากกว่าผลประโยชน์ชาติ พาให้ผู้คนในสังคมไทยแตกแยกทางความคิดจนเกิดแบ่งฝักแบ่งฝ่าย วิกฤติการณ์เช่นนี้ฉายให้เห็นถึงความไม่เข้าใจแก่นแท้ของประชาธิปไตยของคนไทย ทั้งยังฉายให้เห็นถึงการขาดจิตสำนึกของนักการเมืองที่ทำให้คนไทยตกเป็นเหยื่อของการเมือง เรื่องส่วนตน และทำให้สังคมไทยกลายเป็นสังคมแห่งความเกลียดชัง เข่นฆ่าทำร้ายกันเองโดยขาดสติ

แม้นายทิวาจะนำเสนอกวีนิพนธ์หลายบทด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน ประชด เสียดสี เพื่อตั้งคำถามและกระตุ้นให้ผู้อ่านได้ร่วมคิดร่วมตระหนักถึงบาดแผลที่ร้าวลึกของสังคมไทย แต่ก็ยังได้ใช้บทกวีบางบทปลุกปลอบและเตือนสติผู้อ่านให้ยึดมั่นในสำนึกรักชาติ มองวิกฤติความเปลี่ยนแปลงด้วยสติ เมตตา ปล่อยวางแต่ใช่จะนิ่งดูดาย และเชื่อในกฎแห่งกรรม พร้อมเสนอว่าท้ายที่สุด การมองวิกฤตินี้ด้วยปัญญาจะทำให้เห็นว่าวิกฤติครั้งนี้ จะไม่มีชัยชนะ และไม่มีใครชนะ

ในความไหวนิ่งงัน แสดงให้เห็นชั้นเชิงการประพันธ์กลอน กาพย์ และโคลงของนายทิวา ที่สืบทอดฉันทลักษณ์ตามขนบโดยสร้างสรรค์ลีลา จังหวะ และท่วงทำนองที่มีลักษณะเฉพาะตัว มีฝีมือโดดเด่นในเรื่องของการเล่นเสียง การเล่นคำซ้ำคำ และการใช้คำที่มีความหมายตรงกันข้าม อันเป็นกลวิธีที่ผู้แต่งสามารถสร้างจินตภาพเชื่อมโยงกับวิกฤติการณ์ทางการเมืองได้โดยไม่ต้องเล่าถึงเรื่องราวต่าง ๆ ในลักษณะที่เป็นบันทึกเหตุการณ์ แต่เป็นการใช้ภาษาวรรณศิลป์เพื่อเป็นกระบอกเสียง และเป็นเครื่องมือบันทึกความรู้สึกนึกคิดและพฤติกรรมของผู้คนผ่านสายตาของผู้แต่งที่ได้เฝ้ามองสังคมการเมืองไทยที่เคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลง ด้วยความนิ่ง งัน