วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ต่างต้องการความหมายของพื้นที่ เขียนโดย ศิวกานต์ ปทุมสูติ

ต่างต้องการความหมายของพื้นที่ เขียนโดย ศิวกานต์ ปทุมสูติ


ต่างต้องการความหมายของพื้นที่ ของ ศิวกานต์ ปทุมสูติ กวีซึ่งศรัทธาในความหมายของกวีและบมกวีอย่างยิ่ง กวีท่านนี้ให้คุณค่าต่อผู้ที่เป็นกวีว่า ต้องมีความพร้อมในการประพฤติปฏิบัติตน เป็นผู้ชี้ถูกผิดให้สังคมได้รับทราบ ไม่ใช่ร่ายบทกวีไปตามกระแสนิยมหรือมีอคติ ดังความหมายที่ว่า “ดูกรสหายข้า อย่าขี่แพะเพราะได้ที ขี่เสือต้องอารี เขียนบทกวีต้องใจขาม” และ “และที่สุดบทกวีก็บอกว่า ราคาของบทกวีที่สูงส่ง คือ เลือดเนื้อจิตวิญญาณที่จารผจง และดำรงอยู่ในหัวใจกวี” วาทะเช่นนี้ไม่ค่อยมีให้เห็นบ่อยนัก
ข้อปฏิบัติหรือแง่คิดบางประการที่คนทั่วไปมองข้าม แต่ศิวกานท์ เห็นว่าเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง อันได้แก่ ความเลื่อมใสในบวรพุทธศาสนาที่ปรากฏอยู่หลายแห่ง แม้จะเป็นพุทธมามกะก็ยังอาจหาญวิพากษ์วิจารณ์วัตรปฏิบัติของพระสงฆ์ที่เห็นแก่อามิสบูชา ในส่วนของการแสดงความรักต่อครอบครัว กวีได้ให้ความสำคัญในการเคารพรักบิดาด้วยความกตัญญู ในขณะเดียวกันยังให้ความเอื้ออาทรต่อบุตรด้วยความห่วงใย ทั้งยังแสดงทัศนะที่มีต่อครูบางคนที่ไม่เคยสำรวจตนด้วยถ้อยคำที่ประชดประชนหยันเย้ยในทีว่า “เสียงจ้อแจ้กแตกแถวขึ้นอาคาร หุ่นยนต์น้อยได้วิญญาณคืนสู่ร่าง ขณะหุ่นไล่กาแขนขากาง เดินตามมาห่างห่าง...หักคะแนน” และที่สำคัญยิ่งทัศนะคติต่อการดื่มสุรา ศิวกานท์จะไม่สมยอมให้ผู้ที่อ้างตนเป็นกวีจำเป็นต้องดื่มสุราเพราะเห็นว่าเป็นการเสพยาพิษ
ด้วยแง่งานทางด้านวรรณศิลป์ ผู้อ่านจะเพลิดเพลินไปกับลีลาคำประพันธ์ที่ชัดเจน ถูกต้องและมีความหลากหลายในรูปแบบฉันทลักษณ์ ทั้งกาพย์ยานี กาพย์ฉบัง กลอนสุภาพ กลอนหก เพลงพื้นบ้าน โคลงสี่สุภาพและโคลงดั้น อีกทั้งยังเคลิบเคลิ้มไปกับถ้อยคำภาษาที่กวีเลือกเฟ้นคำที่เหมาะมาใช้ในที่เหมาะๆ กลั่นกรองถ้อยคำที่กินใจ สะเทือนอารมณ์ อีกทั้งยังได้เห็นการเล่นสัมผัสอันไพเราะ เช่น “เพลี้ยแมลงแมงร้ายจากเมืองร้อน ทุกรอยบ่อนรอยเบียนกี่เกวียนบั้น...” หรือ “ร้อนคือเย็นเย็นคือร้อนซ่อนตอซัง ในนาปีนาปรังทั้งนาคร” และยังมีความเปรียบเชิงอุปมาให้เห็นอยู่มากมาย ต่างต้องกาความหมายในพื้นที่ จึงควรค่าแก่การอ่าน